UFABETWINS บทสรุปของความรักที่จบลงด้วยบูโร แฟ็กซ์

admins Avatar

UFABETWINS

UFABETWINS  อย่างที่เรา ๆ รู้กันนะครับ ว่าจุดเริ่มต้นสัญญาฉบับแรกของ “ลิโอเนล เมสซี่” กับบาร์เซโลน่านั้น เริ่มต้นด้วยการเซ็นลงบนกระดาษเช็ดปากในร้านอาหาร แต่ใครจะไปคิดครับว่าตอนจบของเขากับทีมที่รักสุดหัวใจ จะเป็นการบอกลาผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า บูโร แฟ็กซ์

บูโร แฟ็กซ์ เป็นหนึ่งในบริการทางไปรษณีย์ของ สเปน ครับ โดยที่การส่งเอกสารด้วยวิธีนี้นั้นจะสามารถนำหลักฐานดังกล่าวไปใช้ในศาลได้ หากมีกรณีพิพาทเกิดขึ้น

 

ซึ่งมันกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว โดยคู่กรณีคือ ลิโอเนล เมสซี่ กับ บาร์เซโลน่า

1) ความไม่ลงรอยกันระหว่าง เมสซี่ กับ บาร์ซ่า ดูท่าจะเริ่มตั้งเค้ามาตั้งแต่ โจเซฟ มาเรีย บาร์โตเมว เข้ามาบริหารสโมสร มีหลายต่อหลายครั้งที่ บาร์โตเมว ทำให้ เมสซี่ ไม่เชื่อมั่นในโปรเจคท์ของประธานคนใหม่คนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ยอมเซ็นนักเตะซึ่ง เมสซี่ มองว่าสามารถยกระดับทีมได้อย่าง เนย์มาร์ แต่เลือกที่จะเซ็น อองตวน กรีซมันน์ เข้ามาแทน, การปลด เออร์เนสโต้ บัลบาร์เด้ ทั้งที่ก็ทำทีมได้แชมป์ลีกมาโดยตลอด,การปฏิบัติกับ อาร์ตูร์ อย่างไม่เป็นธรรม บีบบังคับนักเตะให้ย้ายสโมสรทั้งที่ตัวนักเตะก็เล่นดีและไม่อยากย้าย หรือกระทั่งการทะเลาะกับอดีตบอร์ดของทีมอีกคนอย่าง เอริค อบิดัล

 

ทุกอย่างมันเหมือนกับสิ่งที่ค่อย ๆ กัดกินในใจของ เมสซี่ มาโดยตลอด เพียงแต่เขายังไม่เคยออกมาปริปากบ่นดัง ๆ ให้ได้ยินกันเท่านั้น

 

2) หลังจากระเบิดลงด้วยการแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ไปถึง 2-8 บาร์ซ่าได้ทำการแต่งตั้ง โรนัลด์ คูมัน เข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งกลายเป็นว่าการกลับมาบ้านหลังใหญ่ในคราวนี้ของพี่เบิ้ม ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในรั้ว คัมป์ นู อย่างไม่น่าเชื่อ

 

เริ่มจากการที่ คูมัน เรียก หลุยส์ ซัวเรซ เข้าไปพบและแจ้งข่าวร้ายให้ทราบว่าตัวนักเตะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเขาอีกต่อไปแล้ว สามารถหาทีมใหม่ได้เลย ซึ่งว่ากันว่า คูมัน ใช้เวลาในการแจ้งเรื่องนี้กับ ซัวเรซ ไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ, รายต่อมาก็คือ เซร์คิโอ บุสเกตต์ ที่ คูมัน ก็แจ้งชัดเจนเหมือนกันว่าเขาไม่ใช่ตัวหลักของทีมอีกต่อไป ถ้าอยู่ต่อต้องแย่งตำแหน่งกับคนอื่น ๆ ในทีม และที่จุกที่สุดก็คือ การที่คูมันแจ้งเมสซี่ด้วยประโยคที่ว่า

 

“ต่อไปนี้จะไม่มีนักเตะที่แตะต้องไม่ได้อีกแล้ว ทุกคนต้องทำเพื่อทีมและจะไม่มีการประณีประนอมใด ๆ ทั้งสิ้น”

 

ซึ่งน่าจะเป็นประโยคที่ทำให้ เมสซี่ ถึงจุดแตกหัก และเป็นชนวนของการยื่นหนังสือขอยกเลิกสัญญากับทีมในเวลาต่อมา

 

3) บาร์เซโลน่า ได้รับหนังสือขอยกเลิกสัญญาจากทาง ลิโอเนล เมสซี่ ผ่านทาง บูโร แฟ็กซ์ โดยข้อความในนั้นระบุถึงสิทธิ์ที่ เมสซี่ สามารถย้ายทีมได้อย่างอิสระหลังจบฤดูกาลของทุกปี หลังจากลงลายลักษณ์อักษรกันไว้ตั้งแต่ปี 2017

 

4) บาร์เซโลน่า ตอบกลับทันควันว่า “ไม่ได้” เนื่องจาก หากตัวของ เมสซี่ จะย้ายทีมโดยอิสระตามสัญญานั้น ต้องทำหนังสือแจ้งกับสโมสรมาก่อนวันที่ 1 มิถุนายน ของทุก ๆ ปี ซึ่งในตอนที่ทำสัญญากันนั้น มันก็คือการแจ้งความจำนงก่อนปิดฤดูกาลนั่นเอง แต่กับในปีนี้มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไปอันเนื่องมาจากพิษของ โควิด-19 เลยทำให้ฤดูกาลต้องจบหลังเดือนมิถุนายน

 

มันคือความหัวหมอของ บาร์เซโลน่า ที่หยิบยกช่องว่างตรงนั้นขึ้นมาปฏิเสธการขอย้ายออกไปแบบฟรี ๆ ของ เมสซี่ อย่างชาญฉลาด และแน่นอนว่าทาง เมสซี่ เองนั้นก็ไม่ยอมเช่นกัน เนื่องจากเขาก็มองว่าในเมื่อฤดูกาลมันปิดหลังจากเดือน มิถุนายน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขอยื่นคำร้องนี้ก่อนฤดูกาลจะปิด

 

สื่อคาดกันว่า เรื่องนี้คงต้องลากกันอีกยาวเป็นสัปดาห์ และคงไปจบลงที่ศาลอย่างแน่นอน

 

5) ทีวายซี สปอร์ต สื่อกีฬาจาก อาร์เจนติน่า เป็นรายแรก ๆ ที่ลงข่าวนี้ และทำให้ค่ำคืนที่ผ่านมากลายเป็นความโกลาหลของแฟนบอลบาร์เซโลน่าในทันที ส่วนหนึ่งรวมตัวกันออกมาประท้วงที่สโมสรพร้อมกับป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ บาร์โตเมว ลงจากตำแหน่ง แม้ในตอนนั้นจะเป็นเวลา 3-4 ทุ่มแล้วก็ตาม

6) บาร์เซโลน่า ฟาดงวงฟาดงาโบ้ยว่าเรื่องนี้มี “มือที่มองไม่เห็น” ชักใยอยู่เบื้องหลัง โดยชี้เป้าไปที่ทีมจากอังกฤษกับฝรั่งเศส ซึ่งต่อให้ไม่พูดชื่อ ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เปแอสเช อยู่แล้ว

 

7) สถานการณ์ต่อจากนี้ คือสิ่งที่น่าสนใจมากครับ เพราะทีมที่สามารถสู้ค่าเหนื่อยของ เมสซี่ ได้นั้น เอาจริง ๆ แล้ว หากตีวงให้แคบลงมาคงมีแค่ ซิตี้ กับ เปแอสเช เท่านั้น ขออนุญาตอ้างอิงจากเอกสารที่หลุดมาถึง Football Leak เกี่ยวกับค่าเหนื่อยของ เมสซี่ มาประกอบนะครับ

 

เมสซี่ นั้น ได้ค่าจ้างสัปดาห์ละ 988,000 ปอนด์ (40.5 ล้านบาท) หรือ 51.4 ล้านปอนด์ต่อปี ( 2.1 พันล้านบาท) นอกจากค่าเหนื่อยแล้ว เมสซี่ ยังฟันลิขสิทธิ์ค่าภาพลักษณ์ที่สโมสรต้องจ่ายให้เมสซี่อีกปีละ 9.1 ล้านปอนด์ (373 ล้านบาท) ค่าภาพลักษณ์ที่ว่านี่ก็คือ ค่าที่สโมสรเอาชื่อ รูป ลายเซ็น ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตัวเมสซี่ไปใช้ในการทำของที่ระลึก และอีเวนท์ต่าง ๆ แถมในสัญญาฉบับล่าสุด ยังมีโบนัสอีกปีละ 13 ล้านปอนด์ (533 ล้านบาท) เป็นค่าความภักดี และรางวัลสำหรับความสำเร็จในรายการต่าง ๆ อีกด้วย

 

สรุปรวมแล้ว 1 ปี เมสซี่จะมีรายได้จากสโมสรบาร์เซโลน่า รวม 73.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3 พันล้านบาท) ซึ่งเงินจำนวนขนาดนี้ทำให้เราตัดชื่อทีมอื่น ๆ ในยุโรปออกไปได้สบาย ๆ เลย ยกเว้น 2 ทีมข้างต้นที่กล่าวมา

 

8) ทีนี้ เมสซี่ จะเลือกย้ายมาร่วมงานกับใครดี ระหว่าง เนย์มาร์ กับ ดิ มาเรีย เพื่อนซี้ หรือ ทางฝั่งโค้ชคู่บุญอย่าง เป๊ป บนสีเสื้อของแมนฯ ซิตี้ จากการวิเคราะห์ของผมเอง ผมเชื่อว่า เมสซี่ จะตามมาร่วมงานที่ ซิตี้ มากกว่าที่ เปแอสเช นะครับ เพราะที่นั่นมีบุคลากรที่คุ้นเคยกันมากมาย ตั้งแต่บอร์ดบริหารไปจนโค้ช รวมไปถึงโปรเจคท์ต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานของสโมสร ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ของ เมสซี่ ได้ตรงกว่า

 

อีกทั้ง อย่าลืมนะครับว่า ซิตี้ เองนั้นเคยตามเทียวไล้เทียวขื่อ เมสซี่ มาแล้วในช่วงที่เขามีปัญหาเรื่องภาษีใน สเปน คราวนั้นพวกเขาแสดงเจตจำนงชัดเจนมากว่าพร้อมจะอ้าแขนต้อนรับ เมสซี่ อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น แม้สุดท้ายแล้วการย้ายทีมในตอนนั้นจะไม่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่า เมสซี่ เองคงมีสายตาที่มองเห็นถึงความจริงใจจากฝั่ง ซิตี้ บ้างไม่มากก็น้อย

 

ปลายทางของมหากาพย์นี้จะไปจบลงตรงไหน ยังไม่มีใครรู้ ทางออกที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้มากมายหลายทาง ตั้งแต่ เมสซี่ กับ บาร์ซ่า กลับมาจูบปากคืนดีกัน (แต่คิดว่ายาก เพราะสื่อที่ สเปน ฟันธงไปแล้วว่า ย้ายแน่), เมสซี่ไปร่วมงานกับโรนัลโด้ให้โลกตะลึงที่ยูเวนตุส ไปจนถึงทางออกที่เมสซี่ทำเซอร์ไพรส์ ไปปรากฏตัวกับทีมในบ้านเกิดอย่าง นีเวลล์ โอลด์ บอยส์

 

แต่ถ้าหากจะช็อคที่สุด และคงไม่อยากให้เกิดที่สุดเลยนั่นก็คือ

ในเมื่อบาร์ซ่าไม่ให้ย้าย ศาลโลกตัดสินถือหางฝั่งบาร์ซ่า วันต่อมา ลิโอเนล เมสซี่ ถือไมค์นั่งแถลงข่าวประกาศแขวนสตั๊ด เพื่อยุติเส้นทางแห่งความวุ่นวายนี้ลง

 

มันคงเป็นตอนจบที่ดราม่า และจะถูกพูดถึงไปอีกยาวนานอย่างแน่นอน

 

 

เพิ่มเติม  >>>  UFABETWINS

คลิกเลย  >>>  https://daviscsclub.org/