UFABETWINS การแข่งขัน ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง คู่ระหว่าง บาร์เซโลน่า พบกับ นาโปลี

ที่สนาม คัมป์ นู เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา เปิดเกมมาเพียงแค่ 2 นาที ทีมเยือนเกือบได้ประตูนำ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ พาบอลขึ้นทางซ้ายก่อนเปิดไปเข้าทาง ดรีส์ เมอร์เท่นส์ วอลเลย์ด้วยขวาแต่โดนไม่ดีบอลพุ่งชนเสาแรกออกหลังไป นาทีที่ 10 เจ้าถิ่นมาได้ลูกเตะมุม อิวาน ราคิติช เปิดโด่งไปหน้าประตู

เกลม็องต์ ล็องเลต์ เทกตัวโขกเต็มหัวส่งบอลตุงตาข่าย บาร์เซโลน่า ทะยานออกนำ 1-0 นาทีที่ 22 หลุยส์ ซัวเรซ ไหลบอลให้ ลิโอเนล เมสซี่ ลากหลบ 3 แนวรับเข้าเขตโทษก่อนล้มตัวยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งโค้งเสียบเสาเข้าไปเด็ดขาด บาร์เซโลน่า หนีเป็น 2-0 นาทีที่ 45 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ คาลิดู คูลิบาลี่

ไปหวด ลิโอเนล เมสซี่ ล้มลง กรรการขอดู VAR ก่อนเป่าเป็นจุดโทษ และเป็น หลุยส์ ซัวเรซ ยิงเข้าไปไม่พลาด บาร์เซโลน่า ทิ้ง 3-0 ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+3 ทีมเยือนได้จุดโทษคืนจากจังหวะที่ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ โดน อิวาน ราคิติช กระแทกล้มลง ผู้ตัดสินชี้ทันทีและเป็น ลอเรนโซ่ อินซินเย่ สังหารไม่เหลือ นาโปลี

ไล่มาเป็น 1-3 พร้อมหมดครึ่งแรก กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังนาทีที่ 53 นาโปลี เกือบได้จากจังหวะที่ โฆเซ่ กาเยฆอน เปิดบอลยาวถึง ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ยิงไปติดตัว เนลซอน เซเมโด้ กระเด้งไปเข้าหัว ลอเรนโซ่ อินซินเย่ ได้โชกแต่เข้ามือ มาร์ก-อันเดร แทร์ชเตเก้น นาทีที่ 71 ทีมเยือนเกือบได้อีก ลอเรนโซ่ อินซินเย่ โยนบอล

จากริมสนามเข้าเขตโทษ เออร์วิง โลซาโน่ กองหน้าตัวสำรองตั้งศีรษะโขกบอลคนเดียวไร้ตัวประกบแต่บังคับไม่ดี ทิศทางเหินข้ามคานออกไปน่าเสียดาย จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านถล่ม นาโปลี 3-1 รวมสองนัดเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมไปเจอ บาเยิร์น มิวนิค ในวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคมนี้ รายชื่อ

ผู้เล่นของทั้งสองทีม บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ก-อันเดร แทร์ชเตเก้น, เนลซอน เซเมโด้, เคราร์ด ปีเก้, เกลม็องต์ ล็องเลต์, จอร์ดี้ อัลบา, เซร์จี้ โรแบร์โต้, อิวาน ราคิติช, เฟร็งกี้ เดอยอง, ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, อองตวน กรีซมันน์ นาโปลี (4-3-3) : ดาวิด ออสปิน่า, โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, คอสตาส มาโนลาส, คาลิดู คูลิบาลี่, มาริโอ รุย, ฟาเบียน รูอิซ, ดีเอโก้ เดมเม่, พิโอเตอร์ ซีลินสกี้, โฆเซ่ กาเยฆอน , ดรีส์ เมอร์เท่นส์, ลอเรนโซ่ อินซินเย่

[OPINION] ฟรีเอเจนต์ ! 5 แข้งที่ยังไร้สังกัดฝีเท้าดีที่สายดึงตัวฟรีไม่ควรพลาด

หลังจากไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี ในฤดูกาลนี้ ทำให้เส้นทางของดาวยิงทีมชาติโครเอเชียรายนี้กับต้นสังกัด ยูเวนตุส ได้สิ้นสุดลง กระทั้งเจ้าตัวออกไปหาความท้าทายระยะเวลาสั้น ๆ ในตะวันออกกลางและพึ่งจะหมดสัญญากับ อัล ดูเฮล เลคห์วิยา ทีมในลีกประเทศกาตาร์ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่

ผ่านมา แม้ว่าเจ้าตัวอาจจะอายุปาเข้าไป 34 ปีแล้ว แต่ผลงานตลอด 4 ปีกับ ทีมม้าลาย ที่เจ้าตัวไม่เคยยิงได้ต่ำกว่า 10 ประตูเลยแม้จะต้องตกเป็นตัวสำรองของทีมในบ้างช่วงก็ตามนั่น ก็พอจะพิสูจน์ได้ระดับหนึ่งแล้วว่าหัวหอกดีกรีรองแชมป์โลกรายนี้ ยังมีวิญญาณเพชรฆาตสิงสถิดอยู่ แถมด้วยประสบการณ์ที่ล้นเหลือ

ย่อมสามารถสร้างความแตกต่างเมื่อทีมต้องการได้อย่างแน่นอน 4. มาล็อง ซาร์ กองหลังวันเดอร์คิด ที่แจ้งเกิดและเติบโตมาในอคาเดมีของ นีซ ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี แต่มีประสบการณ์ลงเล่นใน ลีกเอิง มากกว่า 100 นัด แถมซัมเมอร์ก่อนยังเคยมีข่าวพัวพันกับทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถ

ตกลงในเรื่องค่าตัวกันได้ทำให้เจ้าตัวเลือกจะค้าแข้งให้กับทีมจนหมดสัญญาช่วงซัมเมอร์นี้ ซาร์ มีจุดเด่นอยู่ที่ความแข็งแกร่ง และการอ่านจังหวะบอลได้อย่างยอดเยี่ยม แถมเจ้าตัวมีดีกรีเป็นถึงกัปตันทีมชาติฝรั่งเศสชุดเล็ก อีกทั้งยังสามารถโยกไปเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายได้อีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุให้ทีมต่าง ๆ ที่มี

ปัญหาในด้านแผงหลังอยู่ในตอนนี้ ไม่ควรมองข้ามหนุ่มน้อยรายนี้ที่ทั้งดีแถมยังฟรีไปเป็นอันขาด 3. ไรอัน เฟรเซอร์ ปีกตัวจี๊ดทีมชาติสกอตแลนด์ที่เมื่อซีซั่น 2018/19 สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้วยการระเบิดฟอร์มเก่งทำไปถึง 8 ประตูกับอีก 15 แอสซิสต์ให้กับทีมเล็ก ๆ อย่าง บอร์นมัธ จนมีข่าวพัวพันกับทีมใหญ่

ใน พรีเมียร์ลีก มากมาย ซึ่งสุดท้ายดีลทั้งหลายก็ไม่เกิดขึ้น กระทั่งฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้จึงสีส่วนทำให้ต้นสังกัดต้องตกชั้นไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม เฟรเซอร์ กลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งหากดูจากความสามารถของเขา ก็ยังพอจะเล่นให้กับทีมระดับท็อปได้ ทั้ง

ความเร็ว ความคล่องตัว และการวางบอลที่จัดว่าแม่นยำพอสมควร บวกกับอายุที่พึ่งจะ 26 ปี นั่นทำให้ปีกความเร็วสูงรายนี้อาจเป็นอะใหล่ชั้นดีราคาถูกให้กับหลายทีมที่กำลังมองหาทางเลือกเพิ่มเติมในแนวรุกช่วงหน้าร้อนนี้ 2. มาริโอ เกิทเซ ยอดตัวรุกชาวเยอรมัน ชายผู้พาอินทรีเหล็กขึ้นสู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่

อาหารเมื่อปี 2014 ด้วยการยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษดับฝันการเป็นแชมป์โลกของ อาร์เจนตินา ที่มี ลิโอเนล เมสซี เป็นจอมทัพลงไปอย่างเจ็บปวด กระทั่งหลังจากนั้นเจ้าตัวย้ายจาก เสือใต้ กลับมายังทีมที่แจ้งเกิดอย่าง ดอร์ทมุนด์ อีกครั้งในปี 2016 แต่การกลับมาสู่อ้อมอก เสือเหลือง ครั้งนี้ เจ้าตัวประสบ

ปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งจนหายหน้าหายตาไปเป็นพัก ๆ แถมยังโชคร้ายตรวจพบว่าเป็นโรคระบบการเผาผลาญผิดปกติทำให้ต้องหยุดเล่นฟุตบอลเพื่อทำการรักษาเป็นเวลาเกือบครึ่งปีด้วยกัน หลังจากอาการดีขึ้นเพลย์เมกเกอร์วัย 28 ปีรานี้ก็กลับมาลงเล่นอีกครั้ง ซึ่งต้องบอกว่าผลงานก็จัดว่ายังไว้วางใจได้อยู่

เหมือนเดิม แต่ด้วยแผนการทำทีมของ ลูเซียน ฟาฟร์ ที่ไม่มีพื้นที่ให้เขาได้ลงสนามมากนัก ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทีมต่อไปและมองหาความท้าทายใหม่ ๆ ในต่างแดนดูบ้าง 1. เอดิสัน คาวานี่ ยอดกองหน้าชาวอุรุกวัย ที่ระเบิดฟอร์มเก่งยิงประตูถล่มทลายได้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะย้ายไปค้าแข้ง

กับทีมใด กระทั่งปีสุดท้ายของเขากับ ปารีส แซงก์ แชร์กแมง การมาของ เมาโร อิคาร์ดี้ ทำให้ม่านของอดีตดาวยิงของ นาโปลี รายนี้ ปิดฉากลงอย่างถาวร ถึงแม้จะอายุปาเข้าไป 33 ปีแล้ว แต่ทักษะการจบสกอร์บวกกับประสบการณ์ที่มีนั้น เชื่อได้ว่ายังสามารถสร้างประโยชน์ในแดนหน้าได้อย่างมหาศาลแน่นอน และ

การที่เขาเป็นนักเตะฟรีเอเจนต์ นั่นจึงทำให้ทีมที่ต้องการดึงตัวเขาไปร่วมทีมนั้นไม่ต้องเสียเงินค่าตัวแม้แต่บาทเดียว แต่อย่างไรก็ตามปัญหาในการย้ายทีมของเขาซัมเมอร์นี้อาจจะอยู่ที่ค่าเหนื่อย ที่มีข่าวว่าเจ้าตัวยังต้องการในระดับแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ จึงทำให้สโมสนใดที่ต้องการจะเซ็นสัญญากับเขาอาจต้องคิดหนักพอสมควรเลยทีเดียว

คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/

อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://daviscsclub.org/