โดมินิค โซบอสซไล เพลย์เมกเกอร์ชาวฮังกาเรียนของ แอร์เบ ไลป์ซิก เผชิญช่วงเวลาที่ยากสุดในอาชีพค้าแข้งของเขานับตั้งแต่ย้ายมาจาก ซัลซ์บวร์ก ในช่วงเดือนมกราคมปี 2021 เนื่องจากต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับทีมใหม่, ลีกใหม่และสภาพแวดล้อมใหม่ แต่มันเป็นเรื่องยากมากขึ้นเมื่อเขาถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

โซบอสซไล ย้ายจากบ้านเกิดมาเผชิญโลกกว้างตั้งแต่อายุไม่ถึง 17 ตอนย้ายจาก วีเดโอตอน มาอยู่กับ ลีเฟอริ่ง ทีมสำรองของ ซัลซ์บวร์ก ในปี 2017 ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมกระทิงแดงออสเตรียในปีถัดมาและลงหลักปักฐานกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ซีซั่น 2019-2020

จนกระทั่ง แอร์เบ ไลป์ซิก จ่ายเงิน 20 ล้านยูโรดึง โซบอสซไล มาร่วมทีมในช่วงเดือนมกราคมปี 2021 กลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังฮังกาเรียน โดยเซ็นสัญญากับทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์จนถึงปี 2026 มีค่าฉีกสัญญามูลค่า 70 ล้านยูโร

ทว่า โซบอสซไล เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ แอร์เบ ไลป์ซิก แบบยากลำบาก เนื่องจากมิดฟิลด์วัย 20 ปีมีอาการบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบจนพลาดการลงเล่นตลอดช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนจะได้โอกาสลงประเดิมสนามกับทีมกระทิงแดงเมืองเบียร์ครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หลังลงเล่นฐานะสำรองช่วงนาที 79 ในเกมกับ ซานด์เฮาเซ่น ในศึก เดเอฟเบ โพคาล รอบแรก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาและทำประตูทันทีหลังลงสัมผัสสนามเพียง 3 นาที

โซบอสซไล เคยเปิดเผยกับ ‘สปอร์ต บิลด์’ ระหว่างฟื้นฟูร่างกายก่อนหน้านี้ว่า ‘ผมยังคงก้าวไปทีละขั้นเพื่อไปสู่ความสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ และต้องการจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ให้เร็วสุดเท่าที่จะเป็นไปได้’

‘มันไม่ง่ายเลยสำหรับผมทั้งร่างกายและจิตใจ ผมต้องยอมรับความจริงที่ว่าผมพลาดการลงสนามเป็นเวลานาน’

มิดฟิลด์วัย 20 ปียังกล่าวถึงการลงเล่นกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลนี้ว่า ‘พูดง่ายๆว่าผมต้องการลงเล่นให้มากสุดเท่าที่ผมสามารถทำได้และทำให้ดีสุดเท่าที่ผมสามารถทำได้ในลีก เกมชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแม้มาจากภายนอกก็ตาม ผมอยากไปถึงรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งและคว้าแชมป์ร่วมกับ ไลป์ซิก’

โซบอสซไล ยกระดับฝีเท้าขึ้นมากับ ซัลซ์บวร์ก ซึ่งมิดฟิลด์ชาวฮังกาเรียนเปิดเผยว่า มาร์โก โรเซ่อ เทรนเนอร์คนปัจจุบันของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มีเป็นคนสำคัญที่มีส่วนช่วยพัฒนาฟุตบอลของเขา

‘ตอนผมอยู่ที่ ลีเฟอริ่ง เขาเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่และผมถูกโปรโมตขึ้นมาอยู่ในทีมของเขา ผมเองคิดว่าสิ่งที่ผมทำที่ ลีเฟอริ่ง เพียงพอแล้วในระดับการเล่นอาชีพ ทั้งในแง่ของการทำประตูและแอสซิสต์ และอื่นๆ’

‘ตอนอายุ 16 ผมคิดว่าผมไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่านี้ ผมทำมาพอแล้ว เขาเป็นโค้ชที่ผมต้องการ คนที่เข้าเปลี่ยนแปลงความคิดของผมให้รู้ว่าคุณสามารถทำอะไรได้มากขึ้นและคุณสามารถปรับปรุงได้ตลอดเวลาตราบเท่าที่คุณทำงานหนักพอที่จะได้รับโอกาสและกลายเป็นตัวจริงสม่ำเสมอ’

‘ช่วงอายุ 16 ผมคิดว่าเขาไม่ชอบผมและไม่ต้องการให้ผมเล่น แต่ผมได้เรียนรู้ว่าเขาไม่ได้มีปัญหากับผมจริงๆ เขาแค่รู้ว่าผมสามารถทำอะไรได้อีกมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณเขา เพราะถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้น ผมก็ยังคงเชื่อว่าผมทำมาเพียงพอแล้ว ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นและเมื่อผมได้พูดคุยกับเขาเป็นเวลานานครึ่งหนึ่ง ผมตัดสินใจว่าผมเชื่อใจเขาและผมจะทำในสิ่งที่เขาพูดและเป็นคนแรกที่มาฝึกซ้อมและเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากการฝึกซ้อม’

‘นับตั้งแต่นั้นผมก็ได้รับโอกาส และหลังจากนั้นผมได้ลงเล่นหลายเกมและทำแอสซิสต์และประตู ก่อนเขาจะจากไป แต่บางทีเราอาจจะหวนกลับมาอยู่เส้นทางเดียวกันอีกครั้ง’

โซบอสซไล ใช้เวลานานกว่าครึ่งปีในการฟื้นฟูร่างกายจากการบาดเจ็บโคนขาหนีบ ซึ่งมิดฟิลด์วัย 20 ปีเล่าถึงประสบการณ์ที่ยากลำบากในช่วงเวลาเหล่านั้นว่า ‘ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายในช่วงเวลานั้น แต่ผมก็ลืมไปไม่น้อยเช่นกัน และผมไม่ต้องการจะเผชิญกับมันอีก’

‘ช่วงเวลานั้นสอนผมถึงบางอย่างที่ผมสามารถบอกกล่าวกับพวกนักเตะหนุ่มได้ เพราะผู้เล่นอาวุโสทั้งหลายต่างรู้ดีอยู่แล้ว นั่นคือคุณต้องดูแลร่างกายจริงๆ เพื่อให้บรรลุทุกอย่างที่คุณต้องการ’

‘คุณต้องให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวและดูแลร่างกายของคุณ ผมรู้เรื่องนี้ที่ ซัลซ์บวร์ก แต่โชคดีที่ผมไม่มีอาการบาดเจ็บร้ายแรง ดังนั้นผมจึงไม่เห็นคุณค่าของมันอย่างถ่องแท้ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในอาชีพค้าแข้งของผม แต่ผมลุกขึ้นยืนและตอนนี้ผมกลับมาอยู่ในเส้นทางแล้ว อย่างที่ผมพูด ผมอยากทิ้งมันไว้ข้างหลังโดยเร็ว’

มิดฟิลด์วัย 20 ปียังบอกกล่าวถึงความสุขหลังฟื้นตัวจากการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามอีกครั้งว่า ‘ข่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดสำหรับผมคือตอนที่ผมทำประตูในฟุตบอลถ้วย (เดเอฟเบ โพคาล) มันเป็นการแข่งขันเกมแรกในรอบ 8 เดือนของผมและผมลงสนามช่วงนาที 79 และทำประตูในนาที 82 ในชัยชนะ 4-0 ดังนั้นในที่สุดผมรู้สึกถึงการผ่อนคลายอย่างเต็มที่’

‘แน่นอน ผมยังต้องทำงานหนักเพื่อจะได้ต่อยอดในบุนเดสลีกา ผมไม่ได้อยู่ในรายชื่อตัวจริงในเกมกับ ไมนซ์ เนื่องจากการบาดเจ็บ แต่ในเกมกับ สตุ๊ตการ์ท ผมได้รับโอกาสและผมรู้สึกว่าผมทำได้ดี ผมสนุกกับค่ำคืนนั้น การทำสองประตูและชัยชนะ 4-0 กับแฟนบอล ดังนั้นผมจึงมีความสุขมาก’

โซบอสซไล ยังกล่าวถึง เจสซี่ มาร์ช เทรนเนอร์ชาวมะกันที่เป็นเจ้านายของเขาทั้งที่ ซัลซ์บวร์ก และ แอร์เบ ไลป์ซิก ว่า ‘ผมรู้จักเขามานานกว่า 2 ปีแล้วจากที่ ซัลซ์บวร์ก เขาเป็นคนดีมากและเป็นโค้ชที่ดีมาก’

‘มันไม่ใช่การเริ่มต้นดีที่สุดสำหรับทีม แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้ในวงการลูกหนัง ไม่ใช่ทุกทีมที่สามารถออกสตาร์ทได้ดีทุกครั้งหรือได้ผลการผลลัพธ์ตามที่พวกเขาฝันไว้ ผมคิดว่าพวกเราทุกคนหนุนหลังเขาเพราะเขาเป็นคนดีจริงๆ ที่มีความรอบรู้เรื่องเกม ไม่มีใครสามารถพูดเป็นอย่างอื่นได้’

โซลอสซไล ยังกล่าวถึงความคิดเห็นของ โลธ่าร์ มัทเธอุส อดีตแข้งทีมชาติเยอรมันที่เปรียบเทียบมิดฟิลด์วัย 20 ปีของ แอร์เบ ไลป์ซิก กับ เฟเรนซ์ ปุสกาส ตำนานลูกหนังชาวฮังกาเรียนว่ามีความหมายต่อเขาอย่างไรว่า

‘ผมรู้สึกขอบคุณเขาที่เขาคิดแบบนั้นเพราะผมทำงานหนักมาตั้งแต่ผมยังเล็กเพื่อบรรลุเป้าหมายแบบนั้น อย่างไรก็ตามผมไม่อยากเทียบตัวเองกับ ปุสกาส เขาเป็นนักเตะที่ดีมากๆและเป็นตำนานในฮังการี ดังนั้นผมจึงมีความเคารพทั้งหมดทั้งมวลในโลกนี้ต่อเขา แต่เขาสร้างเส้นทางของเขาเองและผมก็อยากทำแบบนั้นด้วย ผมต้องการเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กๆ และอย่างที่ผมพูดว่าทุกคนสามารถปรับปรุงได้ และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการจะทำ’

แนวรุกชาวฮังกาเรียนยังอธิบายตัวเองในฐานะนักฟุตบอลว่า ‘ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าความฝันยิ่งใหญ่ที่สุดของผมคือการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ผมต้องการคว้าแชมป์ให้มากที่สุดและมีอาชีพค้าแข้งที่ดีจริงๆ เพราะนั่นคือเป้าหมายของผมตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น ผมต้องการเล่นต่อหน้าแฟนบอลเต็มความจุสนาม ต่อหน้าแฟนบอล 70,000 คนให้ทีมชาติ และทำประตูและสร้างโอกาสทำประตูและทำให้ผู้คนมีความสุข’

‘ผมยังต้องการให้คุณพ่อของผมและครอบครัวของผมได้เห็นผมคว้าโทรฟี่แชมป์อย่างแชมเปี้ยนส์ลีก นั่นคือเป้าหมาย และนั่นคือเหตุผลที่ผมลุกขึ้นมาและทำงานหนักในแต่ละวัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะได้รับผลตอบแทน’

มิดฟิลด์วัย 20 ปียังกล่าวถึงความคาดหวังในอนาคตว่า ‘อีกครั้ง, การคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก ผมยังต้องการมีสุขภาพแข็งแรงและปราศจากการบาดเจ็บ ผมไม่ต้องการให้ใครบาดเจ็บ กับ ไลป์ซิก, ผมต้องการไปให้ไกลที่สุดในฟุตบอลถ้วยและแชมเปี้ยนส์ลีกและจบการแข่งขันสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในบุนเดสลีกา นั่นคือสิ่งที่เรากำลังทำงานในตอนนี้’

โซบอสซไล ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หลังทั้งคู่เคยเล่นร่วมกันที่ ซัลซ์บวร์ก ก่อนหัวหอกชาวนอร์วีเจี้ยนจะย้ายมาค้าแข้งกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงเดือนมกราคมปี 2020 ก่อนมิดฟิลด์ชาวฮังกาเรียนจะย้ายมา แอร์เบ ไลป์ซิก ช่วงเดือนมกราคมปีต่อมา

‘พวกเรายังเป็นเพื่อนกัน เรายังคงติดต่อกัน ตอนที่ผมย้ายมา ซัลซ์บวร์ก, (มูนาส) ดับบูร์ ช่วยผมมากที่สุดในการก้าวขึ้นมาเล่นเกมระดับอาชีพ ผมรู้ว่ามันยากแค่ไหนในการปรับตัวเข้ากับทีม แม้ว่าพวกเขาจะเป็นมิตรและพยายามช่วยก็ตาม’

‘พวกเขารู้จักกันอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากในการประสานงาน เมื่อ เออร์ลิ่ง ย้ายมา เขาเป็นนักเตะใหม่เพียงคนเดียวในซัมเมอร์นั้นและทุกคนรู้จักกันดี ผมคิดว่าตัวเองเคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ดังนั้นผมจึงเปิดกว้างสำหรับเขาและช่วยทุกอย่างที่เขาต้องการ’

‘พวกเราออกไปข้างนอกด้วยกัน แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยทำแบบนั้น เราออกไปหาของกินด้วยกัน พวกเรากลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และผมช่วยให้เขารู้จักทีมในขณะที่เขาช่วยผมด้วยการสอนภาษาอังกฤษ ดังนั้นเราทั้งคู่จึงช่วยกันและกัน’ โซบอสซไล กล่าว

คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล